Error
  • JLIB_APPLICATION_ERROR_COMPONENT_NOT_LOADING
  • JLIB_APPLICATION_ERROR_COMPONENT_NOT_LOADING
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1

โน้ตบุ๊ค Dell จะกด F1 ทำไมต้องกด Fn? แนะนการตั้งค่าให้สามารถกดปุ่ม F1-F12 โดยไม่ต้องกดปุ่มฟังก์ชัน Fn

โดยทั่วไปแล้วปุ่มฟังก์ชัน F1-F12 ในคีย์บอร์ดจะมีคำสั่งเฉพาะของตัวมันเองอยู่แล้วและเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกเครื่อง
ซึ่งคำสั่งของปุ่ม F1-F12 คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ครับ

  • F1 : Help
  • F2 : แก้ไขชื่อไฟล์, แก้ไขข้อความใน Cell ของ Excel
  • F3 : เปิดหน้าต่างค้นหา
  • F4 : แสดงรายชื่อเว็บไซด์ที่เคยเข้าใน IE, ล็อกตำแหน่ง Cell ในสูตรของ Excel
  • F5 : Refresh หน้าเว็บไซด์ใน IE
  • F6 : เลื่อน Cursor ไปที่ช่อง Address bar ใน IE
  • F7 : Check Grammar ข้อความใน Word, Excel
  • F8 : Highlight ข้อความใน Word, Excel
  • F9 : ยกเลิก Highlight ข้อความใน Word, Excel
  • F10 : แสดงแถบเมนู หรือไปที่แถบเมนู
  • F11 : Full Screen ใน IE
  • F12 : Save as ใน Word, Excel, PowerPoint

     แต่ว่า Notebook ของ Dell บางรุ่นจะมาพร้อมกับการตั้งค่าคีย์บอร์ดปุ่ม F1-F12 เป็นแบบ Multimedia (คกดเปิด-ปิดไวไฟ ทัชแพด)
ไม่ได้กด F1 เป็น Help, F2 เป็นเปลี่ยนชื่อไฟล์หรือ แก้ไขข้อความใน Cell ของ Excel ซึ่งการจะใช้งานให้เหมือนคีย์บอร์ดโดยทั่วไป
ต้องมีการกดปุ่ม Fn ร่วมด้วย ซึ่งถ้าบางท่านอาจจะมีความจำเป็นต้องใช้งานปุ่ม F1-F12 ที่บ่อยครั้งทำให้ไม่สะดวกในการใช้งาน 
ทำงานได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น แต่ถึงแม้จะมีการใช้งานจนคล่องแล้ว ถ้าเกิดวันนึงต้องไปใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ
ก็จะทำให้ต้องเสียเวลาในการปรับตัวสักระยะนึง

     สำหรับการตั้งค่าใน Notebook Dell สามารถทำได้ 2 วิธีคือ ตั้งค่าผ่าน BIOS และโดย Windows Mobility Center 

     มาเริ่มกันที่การตั้งค่าปุ่มฟังก์ชันด้วย BIOS เริ่มด้วยการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมา ก่อนที่เครื่องจะเข้าสู่ Windows
ให้ทำการตามกดปุ่มตามที่แจ้งตามหน้าจอว่ากดปุ่มไหน เพื่อเข้าสู่หน้า BIOS  ปุ่ม Del หรือปุ่มอื่นๆ 

     สำหรับบางท่านที่ไม่เคยเข้าใช้งาน BIOS มาก่อน ต้องบอกเลยว่า BIOS ส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้ Mouse ได้
ปุ่มที่ใช้ได้ก็มีปุ่มลูกศร ปุ่ม Enter และปุ่มอื่นๆ สามารถดูได้จากด้านล่างของจอภาพ

dell notebook f1-f12 ไม่กด fn ตั้งค่า bios

     ให้ทำการเลื่อนมาที่เมนู Advanced และลงมาที่คำสั่ง Function key Be… แล้วกด Enter BIOS จะแสดงหน้าคำสั่งมาให้เลือกสองค่า
คือ Function Key First และ Multimedia Key First ให้เลือกที่ Function Key First แล้วกดปุ่ม F10 เพื่อทำการบันทึกการตั้งค่าและบูตเครื่องเข้าสู่ 
Windows ต่อไป เป็นอันเสร็จขั้นตอนการตั้งค่าปุ่มฟังก์ชันด้วย BIOS ครับ

     ส่วนการตั้งค่าด้วย Windows Mobility Center ก็ให้เปิดเครื่องโน๊ตบุ๊คตามปกติ แล้วค้นหา Windows Mobility Center
จากปุ่ม Start แล้วเปิดโปรแกรมขึ้นมา ไปที่ Customized by Dell Inc. => Function key Row => เลือกเป็น Function key 

dell notebook f1-f12 ไม่กด fn ตั้งค่า windows mobility center

     เพิ่งแค่นี้เราสามารถใช้งานปุ่มฟังก์ชั่น F1-F12 ได้เหมือนคีย์บอร์ดทั่วๆ ไปได้แล้ว บทความต่อไปเราจะมาแนะนำวิธีการ
ตั้งค่าคีย์บอร์ดของโน้ตบุ๊ค Lenovo ให้สามารถกด F1-F12 โดยไม่ต้องกด fn เหมือนของ Dell บ้างครับ