Error
  • JLIB_APPLICATION_ERROR_COMPONENT_NOT_LOADING
  • JLIB_APPLICATION_ERROR_COMPONENT_NOT_LOADING
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1

     บทความก่อนหน้าที่ได้แนะนำการ ตั้งค่าโน้ตบุ๊ค Dell ให้กดปุ่ม F1-F12 ไม่ต้องกดปุ่มฟังก์ชัน Fn ไปแล้ว ถ้ายังไม่ได้อ่านก็สามารถคลิก
ไปอ่านได้จากลิ้งครับ และบทความนี้จะเป็นของ Lenovo บ้างครับ ส่วนเรื่องเหตุผลที่ต้องมาตั้งค่านั้นลองกลับไปอ่านบทความของ Dell ดูครับ

     สำหรับการตั้งค่าในโน้ตบุ๊คของ Lenovo ให้สามารถกด F1-F12 โดยไม่กด Fn นั้นก็มีลักษณะคล้ายกับการตั้งค่าในโน้ตบุ๊ค Dell คือ
ตั้งค่าผ่าน BIOS และตั้งค่าด้วย Keyboard Properties ใน Control Panel (ต่างจาก Dell ที่ตั้งค่าด้วย Windows Mobility Center)

     มาเริ่มตั้งค่าด้วย BIOS กันเหมือนเช่นเคยครับ เปิดเครื่องโน้ตบุ๊ค รอให้หน้าจอแสดงโลโก้ Lenovo แล้วกดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ด เพื่อเข้า BIOS

lenovo กด f1 ไม่ต้องกด fn เข้า bios

     เมื่อ Startup Interrupt menu ตามภาพด้านล่างให้กด F1 เพื่อเข้าสู่ BIOS Setup Utility

lenovo กด f1 ไม่ต้องกด fn interrupt menu

     เลื่อนไปที่เมนู Config และไปที่คำสั่ง Keyboard/mouse กด Enter

lenovo กด f1 ไม่ต้องกด fn เข้า bios config keyboard/mouse

     ตามภาพด้านล่างเลือกที่ Change to "F1-F12 keys" กด Enter แล้วเลือกที่ Legacy กด Enter อีกที

lenovo กด f1 ไม่ต้องกด fn เข้า bios legacy

     จากนั้นกด F10 เพื่อบันทึกการตั้งค่าและออกจากหน้า BIOS แล้วรีสตาร์ทเข้าวินโดวน์เป็นอันเสร็จครับ

     วิธีที่สอง การตั้งค่าด้วย Keyboard Properties ใน Control Panel เริ่มด้วยเปิดเครื่องและเข้าสู่วินโดวน์ปกติ แล้วไปที่ Control Panel => Keyboard

lenovo กด f1 ไม่ต้องกด fn control panel keyboard properties

     ที่หน้าต่าง Keyboard Properties ไปที่แท็บ ThinkPad F1-F12 keys ติ๊กที่ตัวเลือก Legacy แล้วปุ่ม OK เป็นอันเสร็จขั้นตอนการตั้งค่าครับ

     เป็นอันเสร็จขึ้นตอนการตั้งค่าปุ่ม F1-F12 เพื่อใช้งานปกติโดยไม่ต้องกด Fn สำหรับโน้ตบุ๊ค Lenovo บทความนี้ก็จบลงเพียงแค่นี้ครับ เจอกันครั้งหน้าครับ