Error
  • JLIB_APPLICATION_ERROR_COMPONENT_NOT_LOADING
  • JLIB_APPLICATION_ERROR_COMPONENT_NOT_LOADING
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1
  • Error loading component: com_content, 1

Airplane Mode หรือภาษาไทยเราเรียกกันว่า โหมดการบิน Airplane Mode นี้จะมีอยู่ใน Smartphone ทุกค่ายไม่ว่าจะเป็น iOS, Android และ Windows Phone โดยโหมดนี้จะมีไว้ใช้เพื่อความปลอดภัยในการโดยสารเครื่องบิน ในระหว่างที่เครื่องกำลังบินขึ้นและขณะร่อนลงจอด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คลื่นสัญญาณใด ๆ ไปรบกวนการติดต่อสื่อสารระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน

การเปิด Airplane Mode ของ iPhone สามารถทำได้โดยไปที่ Settings >> Airplane Mode แล้วเลื่อนเปิดโหมด หรือทำการเปิดจาก Control Center โดยลากนิ้วจากด้านล่างของจอขึ้นด้านบนเพื่อแสดง Control Center และเปิด Airplane Mode ด้วยการแตะที่รูปเครื่องบินตามภาพ

Airplane Mode หรือ โหมดการบิน enable

การเปิด AirPlane Mode ด้วย Control Center โดยการแตะที่ไอคอนเครื่องบิน ตามภาพด้านล่าง

Airplane Mode หรือ โหมดการบิน control center

เมื่อเราทำการเปิด Airplane Mode โหมดการติดต่อสื่อสารหลายๆ อย่างจะถูกปิดลงและใช้งานไม่ได้ เช่น

- Cellular
- Wi-Fi
- Bluetooth
- GPS
- Location services
- Carrier

Airplane Mode หรือ โหมดการบิน disable

Airplane Mode นอกจากจะมีประโยชน์ในระหว่างการโดยสารเครื่องบินแล้ว เรายังสามารถนำมาใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้อีกด้วย

  1. ใช้ Airplane Mode เมื่อต้องการยึดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ เพราะเมื่องเราเปิด Airplane Mode โหมดการติดต่อสื่อสารหลายๆ อย่างจะถูกปิดลง ทำให้การใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น เมื่อถึงคราวจำเป็นที่จะใช้ค่อยปิด AirPlane Mode
  2. ใช้ AirPlane Mode เพิ่มความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ เพราะโหมดการติดต่อสื่อสารถูกปิด ทำให้การชาร์จทำได้รวดเร็วขึ้น
  3. ใช้ AirPlane Mode เมื่อไม่ต้องการให้มีใครรบกวนในระหว่างที่เราไปยังสถานที่บางแห่ง เช่น ในโรงภาพยนตร์ ในห้องประชุม ในห้องสอบ