การใช้ฟังก์ชัน SUM ใน Excel

ฟังก์ชัน Sum เอาใช้สำหรับหาผลรวมของข้อมูลของเราใน Excel ฟังก์ชัน Sum ถือเป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่มีการใช้งานบ่อย ๆ บทความนี้จะมาแนะนำการใช้ฟังก์ชัน Sum ใน Excel สำหรับมือใหม่กัน ว่าฟังก์ชัน Sum เราต้องทำอย่างไรบ้าง

ฟังก์ชัน Sum เอาใช้สำหรับหาผลรวมของข้อมูลของเราใน Excel ฟังก์ชัน Sum ถือเป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่มีการใช้งานบ่อย ๆ บทความนี้จะมาแนะนำการใช้ฟังก์ชัน Sum ใน Excel สำหรับมือใหม่กัน ว่าฟังก์ชัน Sum เราต้องทำอย่างไรบ้าง

สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่าการจะใช้ฟังก์ชันใน Excel นั้นต้องทำอย่างไรบ้าง ลองอ่าน การใส่สูตรใน Excel เบื้องต้น ก่อน

Syntax ของฟังก์ชัน Sum

SUM(number1,[number2],…)

พารามิเตอร์ที่ฟังก์ชัน Sum ต้องการคือ ตัวเลขอย่างน้อย 1 ตัว สำหรับหาผลรวม เราอาจจะใส่ตัวเลขเข้าไปโดยตรงเลยก็ได้ หรือ จะใส่เป็นตำแหน่งอ้างอิงของข้อมูลใน Sheet ก็ได้ดังตัวอย่างต่อไปนี้

number1 : ตัวเลขค่าคงที่, ตำแหน่งอ้างอิงข้อมูล, Range ข้อมูล
[number2], ... : เป็นตัวเลือก ใส่ข้อมูลต่าง ๆ ได้เหมือน number1

ใส่ตัวเลขแล้วขั้นด้วยเครื่องหมายคอมม่า ,

ใส่ตัวเลขแล้วขั้นด้วยเครื่องหมายคอมม่า , ไปเรื่อย ๆ ตามที่ต้องการ เสร็จแล้วกด Enter เพื่อคำนวนผลรวม

การใช้ฟังก์ชัน Sum ใน Excel รวมค่า หาผลรวม

ใส่ตำแหน่งอ้างอิงตำแหน่ง cell

ใช้วิธีเดียวกันกับการใส่ค่าตัวเลข เพียงแค่เปลี่ยนจากตัวเลขเป็นตำแหน่ง cell และขั้นด้วยคอมม่า ดังภาพด้านล่าง

การใช้ฟังก์ชัน Sum ใน Excel รวมค่า หาผลรวม

ใส่ตำแหน่งช่วงของข้อมูล

ใส่สามารถใส่ช่วงของข้อมูลได้ก็ได้ แล้วกด Enter เพื่อให้ฟังก์ชัน Sum คำนวนค่าให้ ดังภาพด้านล่าง

การใช้ฟังก์ชัน Sum ใน Excel รวมค่า หาผลรวม

ใส่ตัวเลข, ตำแหน่ง cell และ ช่วงของข้อมูล

นอกจากนี้เรายังสามารถใส่ค่าตัวเลข ตำแหน่ง cell และช่วงของข้อมูลพร้อมกัน ให้ฟังก์ชัน Sum คำนวณให้เรา โดยขั้นด้วยคอมม่า

การใช้ฟังก์ชัน Sum ใน Excel รวมค่า หาผลรวม

อ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่นี่ครับ รวมบทความการใช้งาน Excel

ถ้าเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์รบกวนกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ และถ้าต้องการติดตามอ่านบทความของเราอย่างต่อเนื่องก็สามารถติดตามได้ที่เพจครับ Facebook.com/sara2udotcom