Excel ลบช่องว่าง ด้วย Replace หรือ ฟังก์ชัน SUBSTITUTE()

ในการทำงานเอกสาร Excel ในแต่ละวันคิดว่าหลาย ๆ คนคงจะเจอกับปัญหาเรื่องช่องว่าง หรือ เว้นวรรค ที่ติดมากับข้อมูลตัวอักษรในไฟล์เอกสารเราบ่อย ๆ บางครั้งช่องว่างเหล่านี้ก็มักจะทำให้สูตรของเราไม่ถูกต้อง มีปัญหาบ้าง ถ้ามีช่องว่างเพียงไม่กี่อัน ใช้การลบช่องว่างด้วย Delete หรือ Backspace ก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าเรามีข้อมูลจำนวนมาก ๆ เป็น พันหรือหมื่นแถว การที่จะให้ลบช่องว่างด้วย Delete หรือ Backspace ก็คงจะไม่ไหว

บทความนี้ผมจะมาแนะนำการลบช่องว่างด้วยคำสั่ง Replace และฟังก์ชัน SUSTITUTE() เป็นคำสั่งง่าย ๆ แต่ช่วยให้การลบช่องว่างของเรานั้นทำได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว

มาเริ่มด้วยคำสั่ง Replace

การเรียกใช้คำสั่ง Replace ให้ไปที่แท็บ Home => Find & Select ที่อยู่ด้านขวาสุด => คลิกที่ Replace… ตามภาพด่านล่าง หรือจะกดคีย์ลัดก็ได้ครับ กด Ctrl + H

Excel ลบช่องว่าง ด้วย Replace หรือ ฟังก์ชัน SUBSTITUTE()

ใส่สิ่งที่เราต้องการจะ Replace นั่นก็คือช่องว่างนั้นเอง ใส่ที่ช่อง Find what โดยการเคาะ space bar 1 ครั้ง ส่วนช่อง Replace with นั้นไม่ต้องใส่อะไร เพราะเราต้องการจะลบช่องว่างออก หรือ ถ้าใครต้องการจะแทนที่ด้วยตัวอักษรอื่น ๆ ก็ใส่เข้าไปได้เลย

เสร็จแล้วกด Replace หรือ Replace All เพื่อลบช่องว่างออกไปได้เลยครับ เทคนิคเราสามารถคลิกเลือกคอลัมน์แล้วคลิก Replace All เพื่อลบช่องว่างเฉพาะคอลัมน์ที่เลือกเท่านั้น

Excel ลบช่องว่าง ด้วย Replace หรือ ฟังก์ชัน SUBSTITUTE()

วิธีที่สองการลบช่องว่างด้วยฟังก์ชัน SUBSTITUTE()

วิธีนี้ก็ไม่ยากครับ โดยการใส่ฟังก์ชัน SUBSTITUTE ดังภาพด่านล่างครับ โดยจะมีการใส่พารามิเตอร์ 3 ตัวคือ ตัวแรก Text ที่เราต้องการลบช่องว่าง ใส่ A1 ตัวที่สองคือ คือช่องว่างที่เราต้องการลบใส่ “ “ ตัวที่สามใส่ “” แล้วปิด ) แล้วกด Enter แล้วลากสูตรลงตามต้องการเลยครับ

Excel ลบช่องว่าง ด้วย Replace หรือ ฟังก์ชัน SUBSTITUTE()

เพียงแค่นี้เราก็สามารถลบช่องว่างที่น่ารำคาญของเราออกไปจนหมดละ โดยใช้เวลาเพียงแค่อึดใจเดียวครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง